เรียน GMAT




SmartMathsTutor กิ๊ก
          นักพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์, I.Q., วิทยากรอิสระ, ติวเตอร์ รับบรรยาย ฝึกอบรม, ติว, สอนคณิตศาสตร์ผ่านโจทย์เชาวน์คณิต (GMAT, GRE), โจทย์คิดเลขเร็ว, โจทย์ปัญหาเชาวน์, โจทย์พัฒนา I.Q.,  เกมปริศนา หรือ โจทย์พัฒนาศักยภาพบุคลากรระดับผู้บริหารในองค์กรทุกประเภท เพื่อพัฒนาวิธีเรียนรู้ และ วิธีคิดวิเคราะห์ ให้ผู้เรียนมีองค์ความรู้ของตนเอง, มีตรรกะเชิงจินตนาการในการคิด, มี mind map ในการจดจำ, คิดวิเคราะห์ได้อย่างเป็นระบบ, มีความคิดรวบยอดในการแก้ปัญหา, เข้าใจปัญหาได้ตรงประเด็น และ แก้ปัญหาอย่างมีจินตนาการสร้างสรรค์นอกกรอบ เพราะ "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" และ "ความคิดสร้างสรรค์ เป็นพรสวรรค์ที่พัฒนาได้"

สอนให้เก่ง   เน้นเข้าใจ   ไม่ใช่ท่องจำ   เพื่อทำข้อสอบได้ 
Smart                       Fast                     Correct
ชาญฉลาด - ตีโจทย์เป็นภาพ    เร็ว - ไม่เกิน  30 วินาที    ถูกต้อง - เข้าใจตรงกัน
ไม่รับจ้างทำข้อสอบใดๆทั้งสิ้น
ครูกิ๊ก (SmartMathsTutor)
          รับติว GMAT, GRE, SAT ข้อสอบภาษาอังกฤษตามวันเวลาที่ผู้เรียนสะดวก  โดยผู้เรียนต้องตั้งใจเรียนรู้ด้วยตัวเอง     ครูกิ๊กเป็นเพียงติวเตอร์ที่จะแนะแนววิธีการดีๆ (Smart, Fast, Correct ดูด้านล่าง) ที่ช่วยให้ผู้เรียนทำโจทย์ได้ถูกต้องและเร็วขึ้นเท่านั้น  จำนวนชั่วโมงติวจึงขึ้นอยู่กับพื้นฐานของผู้เรียน   
ทดลองเรียน 1 ข้อ  เพื่อพิสูจน์
            ผู้เรียนสามารถนำโจทย์ที่สงสัยมาสอบถามครูกิ๊ก  เพื่อดูว่าวิธีที่สอนนั้นดีหรือไม่อย่างไร   เพราะทราบดีว่าผู้เรียนต้องการผลสำเร็จ  จึงไม่อยากให้ผู้เรียนผิดหวัง  ลงทุนแล้วต้องสอบได้คะแนนสูงที่สุด
          ติดต่อครูกิ๊กทางมือถือ  082-558-1100  หรือไลน์ (Line ID : SmartMathsTutor)





คำติ-ชม
(ดูภาพขยาย...คลิกรูป)

ติวGMAT


พี่เปิด course GMAT 90 ข้อ trick เด็ด สำหรับสอนน้องที่ต้องการสอบได้คะแนนสูง เคยสอบได้คะแนน 44/60 ขึ้นไป หรือ เป็นเด็กหัวดี ก็มาเรียนได้เลยครับ สอบถาม Line : SmartMathsTutor
สอน 6 ชั่วโมงเท่านั้น (เลือกสอนเฉพาะข้อ trick เด็ด, ข้อที่คนส่วนใหญ่ทำไม่ได้ ฯลฯ)

พี่ทำโจทย์ไปแล้ว เฉพาะในหนังสือ GMAT Official Guide หลายปีรวมกัน (ไม่รวมสำนักพิมพ์อื่น, โจทย์บนเว็บไซต์ และ ในแอพที่ซื้อนะครับ) ไม่นับข้อซ้ำ มากกว่า 1,300 ข้อครับ


กำลังสอน GMAT course 90 ข้อ trick เด็ด...ให้น้องสองคน เรียนพร้อมกัน ทั้งสองคนเคยสอบได้ 46/60 และ 44/60
เรียนสนุกมาก get ขึ้นเยอะ ได้เทคนิคไป...ทำได้เร็วขึ้นมาก
ในเวลา 1 ชั่วโมงสอนได้ 15 - 20 ข้อ (สอนเฉพาะข้อยากนะ)
ลักษณะโจทย์ที่มีปัญหา คือ
(1) Prove Pattern,
(2) จับประเด็นปัญหา,
(3) ขุดสมการ,
(4) Backward Thinking,
และ ....... (5) ข้อหลอกให้งง

รักษาปวดหลัง ปวดข้อและกระดูก เรียนรู้+รักษา และ ป้องกันเชิงรุก เพื่อห่างไกลอาการ "ปวดเหลือเกิน"

A.1

อาการปวดหลัง ปวดบ่า ปวดแขน ปวดเข่า ปวดขา ปวดเอว
ปวดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ปวดข้อและกระดูก

"ปวดเหลือเกิน" 

เรียนรู้+รักษาและป้องกันเชิงรุก
อ่านหนังสือ
เรียนรู้สู้กระดูกเสื่อม

ISBN : 978-974-379-808-5 โดยนายแพทย์ ถาวร สุทธิยุทธ์
-------------------------------
ผมอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว พบว่า
เป็นหนังสือที่ให้
Idea ในการรักษาและการป้องกันเชิงรุกของโรคกระดูกเสื่อม

ทุกหน้าเต็มไปด้วยเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์   
ใช้ได้ในชีวิตจริง


ผมได้คัดข้อความบางส่วนมาให้อ่าน

เพื่อนๆ พ่อแม่ ลุงป้าน้าอา ปู่ย่าตายาย ควรอ่านนะครับ
 

-------------------------------
สารบัญ

               ทำไมต้องเรียนรู้สู้กระดูกเสื่อม
               ภาวะกระดูกเสื่อม
               การรักษาภาวะกระดูกเสื่อมในปัจจุบัน
               การคิดแก้ปัญหาแบบนอกกรอบ
               กลไกการเกิดภาวะกระดูกเสื่อม
               การรักษากระดูกเสื่อมแบบบูรณาการ
               การนั่ง
               การนอน  หมอนสุขภาพ
               อาชีพและการทำงาน
               อาชีพและการใช้งานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
               การพักผ่อนกับเครื่องเรือนของใช้
               การจราจรกับบางมุมมองเกี่ยวกับรถที่ใช้
               ปัญหาจากการเดินทาง
               การขึ้นลงบันได
               วัฒนธรรมที่ต้องปรับเปลี่ยน
               งานคุณแม่
               การป้องกันเชิงรุก
               การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
               วิธีบริหารเพื่อสุขภาพ
               ความลับของอุบัติเหตุที่ไม่มีใครรู้
               เคล็ดลับอายยุยืนอย่างมีความสุข
               บทสรุป การเรียนรู้สู้กระดูกเสื่อม

-------------------------------


คำนำ
          หนังสือ เรียนรู้สู้กระดูกเสื่อม เล่มนี้ เขียนขึ้นจากประสบการณ์ของผู้เขียนในฐานะที่เป็นศัลยแพทย์กระดูกและข้อ (Orthopedist) ที่ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยดังกล่าว ซึ่งด้พยายามศึกษาและค้นหามูลเหตุของการเสื่อมจากผู้ป่วยมานานกว่า 10 ปี…………… 

          วัตถุประสงค์ในการทำหนังสือนี้ คือ ต้องการเผยแพร่แนวความคิดใหม่นี้ให้เป็นวิทยาทานแก่คนที่กำลังประสบปัญหาภาวะกระดูกเสื่อมด้วยความทุกข์ทรมานทุกคน เพื่อให้เข้าใจว่าการเสื่อมของกระดูกนั้นเกิดขึ้นใหม่ได้ทุกวัน ยังไม่มียาหรือวิธีรักษาที่ได้ผลจนหายขาด ช่วยได้เพียงแค่บรรเทาอาการที่ปลายเหตุเท่านั้น…………………… 

          การแก้ไขที่ถูกคือ ต้องหาต้นเหตุและลงมือแก้ด้วยตนเอง ไม่สามารถไปพึ่งคนอื่นได้ เพราะเราไม่สามารถถอดกระดูกให้คนอื่นช่วยทำแทน การสู้กับภาวะกระดูกเสื่อมจึงเป็นเรื่องเฉพาะตัวที่ใครทำใครได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ธรรมชาติกำหนดไว้

          ในหนังสือเล่มนี้จึงเริ่มอธิบายตั้งแต่กลไกการเกิดกระดูกเสื่อม ความเกี่ยวข้องทางสรีระของกระดูก เพื่อให้เข้าใจเหตุผลในการดูแลและการแก้ไขรวมถึงการตรวจสอบเพื่อค้นหาสิ่งแวดล้อมที่ผิดในชีวิตประจำวันซึ่งเรามักเคยชินและมองข้าม แต่กลับกลายเป็นสาเหตุของกระดูกเสื่อมได้

          ที่สำคัญ ความรู้เรื่องภาวะกระดูกเสื่อมอธิบายถึงเป้าหมายสูงสุดของการออกกำลังกายไว้ด้วย ทำให้เข้าใจวิธีออกกำลังกายอย่างถ่องแท้และรู้จักเลือกทำได้อย่างถูกต้อง ไม่เกิดโทษ รวมทั้งบอกถึงความลับที่ยังไม่มีใครรู้เกี่ยวกับอุบัติเหตุไว้ด้วยว่า ทำไมหลังการบาดเจ็บอาการปวดทางกระดูกจึงไม่ยอมหายเสียที โดยหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นคู่มืออ้างอิงสำหรับผู้ที่ต้องการต่อสู้กับภาวะกระดูกเสื่อมได้.......................

-------------------------------
ตัวอย่างเนื้อหาในหนังสือ

หน้า 6 ภาวะกระดูกเสื่อมหมายถึงอะไร
          มาจากคำว่า
Degenerative Musculoskeketal Disorderเป็นกลุ่มอาการผิดปกติที่มีสาเหตุมาจากการเสื่อมของระบบโครงสร้าง (กระดูก) ครอบคลุมอวัยวะหลายอย่าง ทั้งเอ็น กล้ามเนื้อ และข้อ
          ยกตัวอย่าง
          อาการปวดเข่าที่รักษามาตลอด ตอนมาตรวจแรกๆอาจมีเพียงเอ็นอักเสบบางครั้งก็ปวดแบบปวดเส้น ต่อมาค่อยกลายเป็นข้ออักเสบ พอนานๆเข้าก็กลายเป็นข้อเสื่อม ถ้าไม่เข้าใจความต่อเนื่องก็คิดว่าการวินิจฉัยที่ต่างกันนั้นเป็นคนละโรคกัน แท้จริงเป็นโรคเดียวกันที่ยังไม่หายขาด แต่รุนแรงขึ้น
          .............ต้องอ่าน
หน้า 34
          ลักษณะการใช้งานบางอย่างดูเหมือนไม่มีอันตราย แต่ที่จริงแล้วกลับมีผลเสียมากถึงสองเท่า ทำให้ข้อยิ่งเสื่อมเร็วขึ้น 

           ตัวอย่างเช่น การนั่งยองๆทำงานกับพื้น
                      ผลเสียประการแรก การนั่งยองๆทำให้ข้อเข่าต้องงออย่างมาก แต่กระดูกหัวเข่าไม่ได้โค้งเข้ารูปเป็นวงกลมตลอดทางที่งอ เวลางอเข่ามากๆกระดูกส่วนที่กว้างก็ยิ่งไปกดเสียดสีกระดูกอ่อนในข้อมากขึ้น ส่งผลให้กระดูกสึกมากขึ้นโดยเฉพาะตอนที่ข้อยังบวมอยู่
                      ผลเสียประการที่ 2 การนั่งยองๆทำให้หลังงอ เวลาก้มทำงานบนพื้นยิ่งต้องงอมาก การงอหลังจึงไปดึงเส้นประสาทตามกลไกที่กล่าวมาแล้ว ทำให้ยิ่งปวดและเข้าสู่กลไกการเสื่อมมากขึ้นเรื่อยๆ

          .............ต้องอ่าน
การนั่ง (หน้า 65) 
          ต้องอ่าน
การนอน (หน้า 78)

          ต้องอ่าน
หมอนสุขภาพ (หน้า 89) 
          ต้องอ่าน
การนอนดูโทรทัศน์ (หน้า 109)

          ต้องอ่าน

การนอนอ่านหนังสือ (หน้า 110)
          แต่วิธีนอนอ่านหนังสือให้ถูกต้องนั้นทำได้ยากมาก ต้องนอนหงายมีหมอนเตี้ยหนุนใต้คอเพื่อให้คอตรงก่อน จากนั้นให้ยกหนังสือขึ้นมาจนอยู่ตรงหน้าของคนอ่านในระดับสายตามองเห็น การยกหนังสืออยู่ตลอดทำให้เมื่อยแขนมาก
          การนอนตะแคงใช้หมอนสูงพอดีไหล่แล้วอ่านหนังสือก็อาจทำให้สายตาเอียงได้ แล้วยังต้องคอยควบคุมท่านอนตะแคงไม่ให้เอียงบิดหรือคว่ำอีก
.............ต้องอ่าน
หน้า 138
          1. การออกกำลังกายที่ดีต้อง...............ต้องอ่าน
หน้า 142
          คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจว่า การออกกำลังกายที่ไม่ถูกวิธีนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาในระยะยาวได้เพราะทุกคนมักคิดว่า อุตสาห์ลงทุนลงแรง เสียเวลามาออกกำลังกายแล้ว น่าจะมีประโยชน์มากกว่ามีโทษ ซึ่งบางครั้งก็ไม่จริง ต้องเข้าใจเหตุผลที่ถูกต้องด้วย.............
ต้องอ่าน

-------------------------------
สุดท้ายนี้
ผมขอย้ำว่า หนังสือเล่มนี้ ควรอ่านจริงๆ
เพราะทุกหน้าเต็มไปด้วยเนื้อหาสาระความรู้ที่มีประโยชน์

และ.....เพราะความไม่มีโรคทั้งกายและใจนั้น เป็นลาภอันประเสริฐ
-------------------------------

ผมซื้อให้ผู้ใหญ่หลายท่านอ่าน


หนังสือ "เรียนรู้ สู้กระดูกเสื่อม" พิมพ์ครั้งที่ 6

หนังสือ "เรียนรู้ สู้กระดูกเสื่อม" พิมพ์เป็นครั้งที่ 6 แล้ว

          เนื้อหามีสาระอันเป็นประโยชน์ สามารถนำไปใช้ได้จริง แต่ละบทสอนเราให้รู้และป้องกันโรคกระดูกเสื่อม ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการใช้ท่าทางในชีวิตประจำวันไม่ถูกต้อง ฯลฯ เป็นโรคที่เราสร้างขึ้นเอง  จะโทษใครก็คงไม่ได้
          น้องๆที่อายุ 20+ ก็ควรอ่านไว้  เพื่อดูแลพ่อแม่  
          ส่วนคนวัย 30+ ก็อ่านไว้  ป้องกันตัวเอง ดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ให้ใช้ชีวิตผิดๆ  หลังจากนี้อีก 20 - 30 ปี  เราก็อายุ 50 - 60.....ตอนนั้น (2578) ประเทศไทยเป็นสังคมสูงวัยแล้ว  คนไทยส่วนใหญ่เป็นคนสูงวัย  แล้วใครจะช่วยเรา  ถ้าเราไม่ดูแลตัวเองตั้งแต่ตอนนี้  
-------------------------------
เขียนโดย : รู้ไว้มีสุข
ลบ comment
อยากจะขอบคุณหนังสือเล่มนี้มากๆ และขออนุญาติคุณกิ๊กขอแชร์ประสบการณ์แย่ๆในชีวิต(แบบรวบรัด)

ถ้าจะให้พูดกันแบบตรงไปตรงมา ณ ปัจจุบัน อายุย่างกรายเข้าเลข3 เพิ่งจะรู้ว่า เรานั่ง/นอน/ยืน/เดิน ผิดมาตลอดชีวิตค่ะ

เคยคิดว่ามันสายไปเสียแล้วหรือเปล่า เพราะมาหาข้อมูล และมาอ่านหนังสือของคุณหมอถาวร ตอนเจ็บ(หนัก)แล้ว เคยท้ออยู่พักใหญ่ เพราะชีวิตวนเวียนกับโรงพยาบาล,ร้านนวด,ร้านกายภาพ,ร้านต่างๆนานาที่เค้าแนะนำกัน108

แต่ไม่เคยมีใครPointในจุดที่เราจะหายได้เลยค่ะ จนมาอ่านหนังสือเล่มนี้ คุณหมอเขียนเอาไว้ได้ครบองค์มาก

ทุกวันนี้ก็ยังต้องทำงานหน้าคอมฯ อย่างน้อยวันละ8ชั่วโมง(อยู่ดี), ยังต้องถือกระเป๋าที่มีเอกสารหนักๆ(อยู่ดี) มีครั้งนึงที่ไปหาคุณหมอกายภาพท่านนึง(และไปร้านนี้แค่หนเดียว) แกถามคำแรกว่า "พรุ่งนี้คุณลาออกจากงานได้ไหม"

พระเจ้า!!! ยังไม่ทันสิ้นเสียงหมอ เราสวนกลับหมอแทบไม่ทันว่า "ไม่ได้ค่ะ" หนูจะเอาไรกินละค่ะคุณหมอ ไหนจะคุณแม่ที่อายุก็มากขึ้นทุกวัน โรคภัยเยอะแยะ บลา บลา บลา

ต่อ... ตัวเราก็วนเวียนกับความเจ็บ(แบบจริงจัง แบบไม่มีแสตนด์อินเลยค่ะ เล่นเอง เจ็บเอง) มาตั้งแต่ ราวๆเดือนมีนาคม2554 (คืออาการหนักแบบโคม่าแล้วนะค่ะ) ไม่เมื่อย ไม่ปวด เจ็บ ร้าว ระทมมาก

เราเรียน และทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ มาตั้งแต่อายุ16เป็นต้นมา จน บัดนาว ก็ สิบกว่าปีละ

เพิ่งจะรู้ว่า ใช้ชีวิตผิดผิดมาตลอด

1) นั่งไม่พิง เนื่องจากตัวสูงราวๆ170cm นั่งหลังค่อมมาตลอด
2) เดินแอ่นหน้า (เป็นมาตั้งกะเด็กๆ โดยที่เราไม่รู้ตัวนะ แต่เพื่อนทัก คนรู้จักทัก)
3) เริ่มรักษาไมเกรน ตอนอายุ19 คุณหมอระบบประสาทและสมอง โรงพยายาลแห่งหนึ่ง ก็ให้กินยาแก้ปวดมาตลอด ปวดตอนไหนก็หาหมอไมเกรน หาหมอไมเกรน เอายาไป นอนให้ไว อย่าเครียดนะ ได้ประโยคเดิมๆแบบนี้มาตลอด และเราก็ไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง

ตัดตอน search google จนมาเจอBlogนี้ค่ะ หนังสือทุกเล่มไปวนเวียนอ่าน(ก่อน) และตกลงปลงใจกับเล่มนี้ จะนั่ง นอน ยืน เดิน คลาย อย่างไร ทุกอย่างอยู่ในเล่มนี้หมด

ไม่อยากจะบอกว่า แม้กระทั่งนอน เรายังนอนผิดมาตลอดชีวิต คิดดู๊จิค่ะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด

วันแรกที่ไปหาที่ SE ED หมดให้รอ ก็เลยไม่เอา แต่เราก็หากันจนเจอ... เราไปเจอมาที่ร้านนายอินทร์ ที่ศิริราช (เห็นว่ามีอยู่หลายเล่มค่ะ) ในราคา 145บาท ไม่มีบัตรสมาชงสมาชิก และถ้าซื้อ3เล่ม(จะได้รับส่วนลดเพิ่มด้วย) แต่เราไม่wantอะไรแล้ว นอกจากเล่มนี้ที่โดนใจมาก

ทำไมถึงต้องซื้อ และใครควรต้องอ่าน

1) เพื่อจะได้ไม่เจ็บไม่ป่วย "คือ ฉันเป็นคนสุขภาพดี ที่คิดว่าตัวเองยังไม่เจ็บ และคงไม่เจ็บหรอก" อ่านแล้วดี เพราะอะไร เพราะคุณจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราปฏิบัติในชีวิตนี้ถูกแล้ว หรือยัง? (เพราะคุณอาจจะยังไม่เจ็บในวันนี้ก็ได้ มันอาจจะยังไม่จัดเต็ม แบบว่าเต็มสตรีมจนแสดงออกมา หรือคนใกล้ตัวคุณ ญาติ พี่ น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย อาจจะช่วยแนะนำ ไกด์เค้าได้ก็ได้)

2) เริ่มๆเป็นๆถี่ๆ ปวดๆ ปวดหัว, ปวดเมื่อย, ล้า, ตึงๆ ปวดหรอ ก็กินยาแก้ปวดสิ กินยาแก้ปวดสิ มันแค่ชั่วคราวค่ะยา ไม่ได้ช่วยถาวร(ตามชื่อคุณหมอ) อาการแบบนี้ยิ่งควรต้องหามาอ่าน "คือ ฉันเริ่มมีสัญญาณ บอกอาการ" มีข้อปฏิบัติมากมายค่ะ ปวดจุดไหน แก้จุดนั้น และปฏิบัติให้ได้ตลอด พร้อมกับออกกำลังกาย(เสริม)

3) ข้อนี้คือมนุษย์แบบเรา "คือ...ฉันเจ็บมากแล้ว" ที่แบบว่าแย่เกินแกงละ ปวดหัวไมเกรนบ่อยๆ และเป็นบ่อยมากกว่าเดิม, ปวดคอเหมือนตกหมอนบ่อยๆ, มนุษย์Internet, มนุษย์Gaming, มนุษย์มือถือiphone/BB พวกชอบChatทั้งหลาย ที่นิ้วล็อคแล้ว(ก็ยังไม่เข็ด) ยิ่งต้องควรไปหามาอ่านโดยไว และปฏิบัติตัวใหม่ได้แล้ว จากนี้ไปคุณจะไม่ต้องใช้ยาอีกเลยค่ะ

ที่สำคัญมากสุด 2ข้อเลย คือ
1. อย่าท้อ (แนวดราม่าแบบ ลาตายดีกว่าไรงี้) โรคนี้มันหายได้จริงๆ ใจล้วนๆ
2. อย่าคิดว่า อีกนิดน่า เอาไว้ก่อนน่า (อย่าพลัดวันประกันพรุ่ง) ทำมันเลยวันนี้ค่ะ!

การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ

ปอลอ ขอบคุณคุณกิ๊กมากๆนะค่ะ ถ้าไม่ได้อ่านBlogนี้ ก็คงไม่ได้ซื้อหนังสือเล่มนี้แน่นอน และเราก็คงเจ็บไปอีกนาน

สู้สู้ค่ะ ^^


โดย: พิมพ์ IP: 58.11.184.60 วันที่: 3 มกราคม 2555 เวลา:0:58:48 น.

ลบ comment
คุณหมอมีคลินิก ที่ไหนบ้างค่ะ


โดย: กุ๊กไก่ IP: 115.67.7.154 วันที่: 28 มีนาคม 2556 เวลา:22:11:50 น.

ลบ comment
ในหนังสือ คุณหมอเขียนประวัติโดยย่อไว้ครับ


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 1 เมษายน 2556 เวลา:13:06:19 น.

ลบ comment
หนังสือยังมีขายอยู่ไหมคะ อยากอ่านมาก รักษากับคุณหมอท่านนี้อยู่ แค่ฟังคุณหมออธิบายเรื่องอาการของเรา รู้สึกประทับใจถึงขั้นอึ้งเลยว่า เขารู้ได้งัยว่าเรานั่ง นอน แบบนี้ พอปรับพฤติกรรมแล้วดีขึ้นจริงๆ เพราะส่วนใหญ่หมอคนอื่นไม่อธิบายถึงสาเหตุหลักและวิธีแก้ที่ตรงจุดแบบนี้ค่ะ


โดย: อ้อม IP: 58.8.56.89 วันที่: 5 เมษายน 2556 เวลา:22:49:42 น.

ลบ comment
มีขายอยู่ครับ ขอบคุณครับคุณอ้อม


โดย: รู้ไว้มีสุข  วันที่: 10 เมษายน 2556 เวลา:21:07:42 น.

ลบ comment
recommended this book ค่ะ เป็นคนไข้ของหมอถาวร ที่หัวเฉียว
หมอถาวรสอนให้ปรับพฤติกรรมทุกอย่าง อ่านหนังสือหมอ แล้วทำตามทุกอย่าง
หายปวดข้อเลยค่ะ ไม่ต้องกินยาแรงๆ และแพงๆ ไม่ต้องไปฝังเข็ม ไม่ได้ไปหาหมอเกือบ 1 ปีแล้วค่ะ ดีใจทที่เจอหมอดี และดีจริงค่ะ ขณะที่ หมอ (ผู้หญิง) เวชศาสตร์ฟื้นฟู หัวเฉียว ที่รับไม้ต่อจากหมอถาวร ก็ดีมากค่ะ แนะนำการปรับท่าทางละเอียดมาก

เข้าใจเรื่องโรคมากขึ้นค่ะ เลิฟหมอมาก แนะนำแม่ แนะนำป้า แทบทุกคน แต่ ติดที่พวกป้าๆ แม่ๆ ไม่ชอบอ่านหนังสือค่ะ


โดย: real patient IP: 114.109.110.37 วันที่: 27 ธันวาคม 2556 เวลา:21:20:56 น.
----------------------------------------------------------

No comments:

Post a Comment