3.3.8
วิธีแยกตัวประกอบสมการกำลังสอง ฉบับ Real Concept - Medium - 3
วิธีแยกตัวประกอบสมการกำลังสอง ฉบับ Real Concept - Medium - 3
-----------------------------------------------------------------------------
วิธีแยกตัวประกอบสมการกำลังสอง ฉบับ Real Concept (ไม่ใช้สูตร)
Medium – ตอนที่ 3
ตัวอย่างแรก
ดูที่สัมประสิทธิ์หน้าพจน์ X0 ซึ่งคือ พจน์สุดท้ายของ Quadratic equation จากตัวอย่าง คือ “+36”
1. ให้หาเลข 2 จำนวนที่เมื่อนำมาคูณกันแล้วเท่ากับ “+36” มีกี่คู่ ตัวเลขใดบ้าง.....เขียนออกมาทั้งหมด วิธีง่ายๆที่ไม่ต้องเดาสุ่ม คือ ให้แยกตัวประกอบของ 36 ดังนี้
หากเป็นเครื่องหมายบวก “ + ” ตัวคูณต้องเป็น บวกทั้งคู่ หรือ ลบทั้งคู่ เพราะ “บวก คูณ บวก ได้บวก” และ “ลบ คูณ ลบ ได้บวก”
พิจารณาสัมประสิทธิ์หน้าพจน์ X1 หรือคือ พจน์กลางของสมการ จากตัวอย่าง คือ “+15” นำเลขในขั้นที่ 2 แต่ละคู่มาบวกกัน แล้วดูว่า คู่ใด.....บวกกันได้เท่ากับสัมประสิทธิ์หน้า X1 นั่นคือผลที่เราต้องการ
ตัวอย่างที่สอง
ดูที่สัมประสิทธิ์หน้าพจน์ X0 ซึ่งคือ พจน์สุดท้ายของ Quadratic equation จากตัวอย่าง คือ “-36”
1. ให้หาเลข 2 จำนวนที่เมื่อนำมาคูณกันแล้วเท่ากับ “-36” มีกี่คู่ ตัวเลขใดบ้าง.....เขียนออกมาทั้งหมด วิธีง่ายๆที่ไม่ต้องเดาสุ่ม คือ ให้แยกตัวประกอบของ 36 ดังนี้
2. พิจารณาเครื่องหมายหน้าเลข “-36”
ซึ่งเป็นเครื่องหมายลบ “ - ” ตัวคูณต้องเป็น บวกและลบ เพราะ “บวก คูณ ลบ ได้ลบ”
พิจารณาสัมประสิทธิ์หน้าพจน์ X1 หรือคือ พจน์กลางของสมการ จากตัวอย่าง คือ “-16” นำเลขในขั้นที่ 2 แต่ละคู่มาบวกกัน แล้วดูว่า คู่ใด.....บวกกันได้เท่ากับสัมประสิทธิ์หน้า X1 นั่นคือผลที่เราต้องการ
จากแบบฝึกหัดที่ให้ทำทั้งหมด น้องๆสังเกตได้ไหมครับ ว่า
1. ถ้าสัมประสิทธิ์หน้าพจน์สุดท้ายเป็น บวก (“+”) แสดงว่า เครื่องหมายต้องเป็น (บวก, บวก) หรือ (ลบ, ลบ) เพราะ “บวกคูณบวก ได้บวก” หรือ “ลบคูณลบ ได้บวก” และซึ่ง
ก. ถ้าพจน์กลางเป็น บวก (“+”) แสดงว่า เครื่องหมายต้องเป็นบวกทั้งคู่
2. ถ้าสัมประสิทธิ์หน้าพจน์สุดท้ายเป็น ลบ (“-”) แสดงว่า เครื่องหมายต้องเป็น (บวก, ลบ) เพราะ “บวกคูณลบ ได้ลบ” และซึ่ง
ก. ถ้าพจน์กลางเป็น บวก (“+”) และ สัมประสิทธิ์หน้าพจน์แรก (X2) เป็น 1 แสดงว่า ตัวเลขบวกต้องเป็นเลขที่มีค่ามากกว่าตัวเลขลบ เพราะเมื่อนำมาบวกกัน พจน์กลางจึงยังคงเป็นบวก
ข. ถ้าพจน์กลางเป็น ลบ (“-”) และ สัมประสิทธิ์หน้าพจน์แรก (X2) เป็น 1 แสดงว่า ตัวเลขลบต้องเป็นเลขที่มีค่ามากกว่าตัวเลขบวก เพราะเมื่อนำมาบวกกัน พจน์กลางจึงยังคงติดลบ
----------------------------------------------------------
วิธีแยกตัวประกอบยังไม่จบเพียงแค่นี้
ถ้าอ่านทั้งหมด แล้วจะเข้าใจยิ่งขึ้น
คลิกเข้าไปอ่านต่อได้ที่นี่
----------------------------------------------------------
วิธีแยกตัวประกอบยังไม่จบเพียงแค่นี้
ถ้าอ่านทั้งหมด แล้วจะเข้าใจยิ่งขึ้น
คลิกเข้าไปอ่านต่อได้ที่นี่
----------------------------------------------------------
No comments:
Post a Comment